วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

"พลังงานทางเลือก" เทรนด์ใหม่ของการลงทุน


"ราคาน้ำมัน" ในตลาดโลกสูงขึ้นต่อเนื่อง "ปัญหาโลกร้อน" ที่เราเคยพูดกันเป็นเหมือนแฟชั่น และมองว่าใกล้ตัว วันนี้ดูเหมือนมันกลายเป็นเพื่อนสนิทกับคนทั้งโลก
"การสร้างพลังงานทดแทน" จึงเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันหนาหูขึ้น คนทั้งโลกก็เริ่มตระหนัก และใส่ใจกับเรื่องนี้กันอย่างจริงจังขึ้น อาจจะได้เวลา และถึงจุดที่โลกต้องหันไปหาพลังงานใหม่ๆ และลดการพึ่งพาพลังงานแบบดั้งเดิมให้ได้ เพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษย์





เหตุผลที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ตื่นตัวโปรโมทการพัฒนาและการหันมาใช้พลังงานทางเลือกใหม่มี 2 เหตุผลหลักคือ ต้องการเยียวยาปัญหาโลกร้อนและรักษาสิ่งแวดล้อม และอีกผลหนึ่งคือ เป็นทางออกเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
พลังงานใหม่กลายเป็นโอกาสการลงทุน

ในช่วงที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้ลงทุนทั้งหลาย กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือ ผู้ลงทุนสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม และเห็นการลงทุนในพลังงานใหม่ๆ เหล่านี้ เป็น "the next big thing" โดย New Energy Finance บริษัท วิจัยในธุรกิจพลังงานทางเลือกใหม่ใน London กล่าวว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานที่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ของโลก หรือ renewable energy จะเติบโตอย่างรวดเร็วภายใน 10 ปีข้างหน้า พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของดัชนีของหุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดนี้ว่า ปีนี้ The Nex clean energy index ปรับตัวสูงขึ้นถึงกว่า 40% ในขณะที่ S&P500 ปรับตัวขึ้น 7% The Jefferies Cleantech Index ปรับตัวสูงขึ้น 51% ซึ่งไตรมาสแรกของปีดัชนี Nex ปรับตัวสูงขึ้น 17.6% ในขณะที่ S&P500 และ NASDAG ปรับตัวขึ้น 0.2% และ 0.3% กลุ่มที่มีอิทธิพลทำให้ดัชนี Nex ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุด คือ พลังงานลม ปรับตัวสูงขึ้น 35.49% เนื่องจากได้รับผลดีจากการพัฒนาในยุโรป และพลังงานแสดแดดปรับขึ้น 28.8%)








Lipper feri แหล่งข้อมูลด้านการลงทุนในกองทุนรวม ยังให้ข้อมูลว่าเม็ดเงินลงทุนจากผู้ลงทุนที่เข้าไปลงทุนในกองทุนหุ้นนั้น เป็นเงินลงทุนที่ต้องการเข้าไปลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากถึง 15% ในขณะที่มีสัดส่วนเพียง 2.6% เท่านั้นในปีที่แล้ว บางกองทุนที่มีแนวคิดการลงทุนเกี่ยวกับบรรยากาศของโลกที่เปลี่ยนไป (climate change fund) มีผู้ลงทุนสนใจเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก
ผู้รู้ด้านการลงทุนในต่างประเทศบางคนให้ความเห็นว่า ความสนใจของผู้ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงานใหม่ๆ เหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากสิ่งที่เกี่ยวข้องในอีกมุมหนึ่งของปัญหาโลกร้อน ก็คือ มีเรื่องความขาดแคลนหายากขึ้นของพลังงานแบบดั้งเดิม เช่น น้ำมัน เกี่ยวข้องอยู่ด้วย


เมื่อมีผู้ลงทุนกลุ่มหนึ่งที่ตระหนัก และเริ่มกังวลในความจริงข้อนี้และผู้ลงทุนกลุ่มนี้มีจำนวนมากพอสมควร จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่พฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนเหล่านี้เปลี่ยนไป ผู้ลงทุนกลุ่มนี้เชื่อว่าสภาพปัญหาโลกร้อน ผนวกกับความหายากของน้ำมัน และความกังวลต่อความมั่นคงด้านพลังงานหากยังพึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก แรงบีบและความจำเป็นเหล่านี้ จะทำให้เกิดการปฏิวัติด้านเทคโนโลยี โดยคาดว่าสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น จะเป็นตลาดหลักที่สร้างโอกาสในการลงทุนในพลังงานทางเลือกใหม่